Mushroom

Diary 3



บันทึกการเรียนรู้คร้งที่ 3 
Parent Education for Early Childhood
วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
เวลา 11.30-14.30
________________________________________________

ความหมายของการสื่อสาร
การสื่อสาร  (Communication) คือ กระบวน การส่งข่าวสาร ข้อมูล จาก   ผู้ส่งข่าวสารไปยังผู้รับข่าวสาร มีวัตถุประสงค์เพื่อชักจูงให้ผู้รับข่าวสารมีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา


ความสำคัญของการสื่อสาร
ทำให้ได้รับรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคม
ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
ทำให้สร้างมิตรภาพที่อบอุ่น


รูปแบบของการสื่อสาร


รูปแบบการสื่อสารของอริสโตเติล (Aristotle’s Model of Communication)


รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล(Lasswell’s Model of Communication)


รูปแบบการสื่อสารของแชนนอนและวีเวอร์ (Shannon & Weaver’s Model of Communication)



รูปแบบการสื่อสารของออสกูดและชแรมม์ (C.E Osgood and Willbur Schramm’s )



รูปแบบการสื่อสารของเบอร์โล (Berlo’s Model of Communication) 



องค์ประกอบของการสื่อสาร
1. ผู้ส่งข่าวสาร (Sender)
2. ข้อมูลข่าวสาร (Message)
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร (Media)
4. ผู้รับข่าวสาร (Receivers)
5. ความเข้าใจและการตอบสนอง


ผู้ส่งสารและผู้รับสาร
ผู้จัดกับผู้ชม
ผู้พูดกับผู้ฟัง
ผู้ถามกับผู้ตอบ
คนแสดงกับคนดู
นักเขียนกับนักอ่าน
ผู้อ่านข่าวกับคนฟังข่าว
คนเล่านิทานกับคนฟังนิทาน

สื่อ
การนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ใช้รูปภาพ รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ โดยวิธีการติดต่อนั้นต้องใช้ตัวกลางต่างๆ เช่น คลื่นเสียง ตัวหนังสือ แผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือเขียน  คลื่นวิทยุโทรทัศน์ ตัวกลางเหล่านี้เรียกว่า สื่อ

สาร
 เรื่องราวที่รับรู้ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น  ข้อเท็จจริง  ข้อแนะนำ  การล้อเลียน  ความปรารถนาดี  ความห่วงใย  มนุษย์จะแสดงออกมาให้เป็นที่รับรู้ได้


วัตถุประสงค์ของการสื่อสาร
1. เพื่อแจ้งให้ทราบ หมายถึง การสื่อสารที่ผู้ส่งสารจะแจ้ง หรือบอกกล่าวข่าวสาร ข้อมูล เหตุการณ์ ความคิด
2. เพื่อสอนหรือให้การศึกษา หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งจะให้ผู้รับมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางด้านองค์ความรู้ ความคิด สติปัญญา
3. เพื่อสร้างความพอใจหรือให้ความบันเทิง หมายถึง การสื่อสารที่มุ่งให้เกิดผลทางจิตใจหรืออารมณ์ ความรู้สึกแก่ผู้รับสาร
4. เพื่อเสนอหรือชักจูงใจ มุ่งเน้นให้ผู้รับสารมีพฤติกรรมคล้อยตาม หรือยอมรับปฏิบัติตาม


ประเภทของการสื่อสาร
3 ประการ คือ
1. จำแนกตามกระบวนการหรือการไหลของข่าวสาร
     1.1 การสื่อสารทางเดียว (One-Way Communication) คือการสื่อสารที่ข่าวสารจะถูกส่งจากผู้ส่งไปยังผู้รับในทิศทางเดียว โดยไม่มีการตอบโต้กลับจากฝ่ายผู้รับ เช่น การสื่อสารผ่านสื่อ วิทยุ โทรทัศน์
     1.2 การสื่อสารสองทาง (Two-way Communication) คือการสื่อสารที่มีการส่งข่าวสารตอบกลับไปมาระหว่างผู้สื่อสาร เช่น การพบปะพูดคุยกัน การพูดโทรศัพท์
 2. จำแนกตามภาษาสัญลักษณ์ที่แสดงออก
      2.1 การสื่อสารเชิงวัจนะ (Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารด้วยการใช้ภาษาพูด หรือเขียนเป็นคำพูด
      2.2 การสื่อสารเชิงอวัจนะ (Non-Verbal Communication) หมายถึงการสื่อสารโดยใช้รหัสสัญญาณอย่างอื่น เช่น ภาษาท่าทาง การแสดงออกทางใบหน้า สายตา
3. จำแนกตามจำนวนผู้สื่อสาร
      3.1 การสื่อสารส่วนบุคคล (Intrapersonal Communication)
      3.2 การสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication)
      3.3 การสื่อสารมวลชน (Mass Communication) 


การสื่อสารกับตนเอง
- การสื่อสารที่บุคคลเดียวเป็นทั้งผู้ส่งสารและรับสาร
- การคิดหาเหตุผลโต้แย้งกับตนเองในใจ
     - เนื้อหาไม่มีขอบเขตุจำกัด


การสื่อสารระหว่างบุคคล
- บุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ไม่ถึงกับเป็นกลุ่ม
- เป็นเรื่องเฉพาะระหว่างบุคคล อาจไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
- อาจเป็นความลับระหว่างผู้ส่งสารกับผู้รับสารเท่านั้น


การสื่อสารสาธารณะ
- มีเป้าหมายจะส่งสารสู่สาธารณชน
- มีเนื้อหาที่อาจให้ความรู้และเป็นประโยชน์ ให้ความเข้าใจที่ถูกต้อง
- เป็นความคิดที่มีคุณค่าและเปิดเผยได้โดยไม่จำกัดเวลา


การสื่อสารมวลชน
- ลักษณะสำคัญคล้ายการสื่อสารสาธารณะ
- ต้องอาศัยสื่อที่มีอำนาจการกระจายสูง รวดเร็ว กว้างขวาง เช่น วิทยุ โทรทัศน์ ดาวเทียมและสื่อมวลชน
- ต้องคัดเลือกเฉพาะข้อเท็จจริงหรือข้อคิดเห็นที่เห็นว่าควรนำเสนอ


การสื่อสารในครอบครัว
- เป็นการสื่อสารขั้นพื้นฐานของมนุษย์
- ประสิทธิภาพของการสื่อสารขึ้นอยู่กับความตั้งใจดีของสมาชิกในครอบครัว
- คุณธรรมที่ดีงามในครอบครัวจะช่วยพัฒนาการสื่อสารไปในทางดีงามเสมอ


การสื่อสารในโรงเรียน
- ส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารกับบุคคลที่คุ้นเคย
- เนื้อหามักเกี่ยวกับวิชาการ พื้นฐานอาชีพและหลักการดำเนินชีวิต
- มีทั้งการสื่อสารระหว่างบุคคล การสื่อสารในกลุ่มและการสื่อสารสาธารณะ


ธรรมชาติการเรียนรู้ของผู้ปกครองเด็กปฐมวัยมีประเด็นสำคัญ ดังนี้
- เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็ก
- เรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความสมานฉันท์
- มีความแปลกใหม่และมีประโยชน์ต่อเด็ก
- เรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติ
- เรียนรู้ได้ดีในบรรยากาศที่เป็นวิชาการน้อยที่สุด


พฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้ปกครอง
    ✪ ความพร้อม 
    ✪ ความต้องการ
    ✪ อารมณ์และการปรับตัว
    ✪ การจูงใจ
    ✪ การเสริมแรง
    ✪ ทัศนคติและความสนใจ
    ✪ ความถนัด

7 c กับการสื่อสารที่ดี
✦Credibility ความน่าเชื่อถือ : สามารถทำให้ผู้รับสารเกิดความเชื่อถือในสารนั้น ๆ
✦Content เนื้อหาสาระ : มีสาระให้เกิดความพึงพอใจ เร่งเร้าและชี้แนะให้เกิดการตัดสินใจได้ในลักษณะอย่างไรบ้าง
✦Clearly ความชัดเจน : การเลือกใช้คำหรือข้อความที่เข้าใจง่าย ๆ ข้อความไม่คลุมเครือ
✦Context ความเหมาะสมกับโอกาส : การเลือกใช้ภาษาและใช้สิ่งที่ส่งสารเหมาะสม
✦Channel ช่องทางการส่งสาร : การเลือกวิธีการส่งข่าวสารได้เหมาะสมและรวดเร็วที่สุด
✦Continuity consistency ความต่อเนื่องและแน่นอน : การสื่อสารกระทำอย่างต่อเนื่องมีความแน่นอนถูกต้อง
✦Clarity of audience ความสามารถของผู้รับสาร : การเลือกใช้วิธีการส่งสารซึ่งมั่นใจว่าผู้รับสารจะสามารถรับสารได้ง่ายและสะดวกโดยคำนึงถึงความรู้ เจตคติ อุปนิสัย ทักษะการใช้ภาษา สังคมวัฒนธรรมของผู้รับสารเป็นสำคัญ


วิธีการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ปกครอง
ศึกษาและพยายามทำตนให้เข้าใจกับผู้ปกครอง
พยายามเรียนรู้ความต้องการของเขา และหาแนวทางตอบสนองตามความเหมาะสม
- พูดคุย พบปะกับผู้ปกครองในโอกาสต่างๆ
- หาโอกาสไปร่วมงานพิธีทางศาสนา เข้าร่วมกิจกรรมกับผู้ปกครอง
- ทำตนให้กลมกลืนกับผู้ปกครอง
- มีท่าทีเป็นมิตรอยู่เสมอ
- เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองร่วมกิจกรรม
                                         🚄🚅🚄🚅🚄🚅🚄🚅🚄🚅

คำถามท้ายบท

1.จงอธิบายความหมายและความสำคัญของการสื่อสารมาโดยสังเขป
🚀🚀 กระบวนการที่ทำให้ได้รับความรู้ความเข้าใจที่ตรงกัน

2.การสื่อสารมีความสำคัญกับผู้ปกครองอย่างไร
🚀🚀 เพื่อให้เข้าใจตรงกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเด็กหรือเรื่องอื่นๆ

3.รูปแบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการให้ความรู้ผู้ปกครอง ควรเป็นรูปแบบใด จงอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
🚀🚀 รูปแบบการสื่อสารของลาล์สเวล เนื่องจากมีขั้นตอนในการสื่อสารที่ละเอียดและมีการสรุปการสื่อสารในตอนสุดท้าย 

4.ธรรมชาติและการเรียนรู้ของผู้ปกครองควรมีลักษณะอย่างไร
🚀🚀เรียนรู้ได้ดีในเรื่องของการพัฒนาเด็กและมีความแปลกใหม่มีประโยชน์ต่อเด็กเรียนรู้ได้ดีจากการฝึกปฏิบัติจริง


5.ปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนพฤติกรรมการเรียนรู้สำหรับผู้ปกครอง เพื่อให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจเกี่ยวกับการศึกษาของเด็ก ประกอบด้วยปัจจัยด้านใดบ้าง
🚀🚀 ความพร้อม ความต้องการ อารมณ์และการปรับตัว การจูงใจ การเสริมแรง ทัศนคติและความสนใจ
ความถนัด

คำศัพท์ 
1. ผู้ส่งข่าวสาร                           Sender
2. ข้อมูลข่าวสาร                        Message
3. สื่อในช่องทางการสื่อสาร        Media
4. ผู้รับข่าวสาร                          Receivers
5. ความน่าเชื่อถือ                      Credibility

ประเมิน
ครู้ผู้สอน : ให้ความรู้อย่างเต็มความสามารถ
ผู้ร่วมเรียน : ตั้งใจเรียน ให้ความร่วมมือ
ผู้เรียน : สนใจในสิ่งที่ผู้สอนต้องการสื่อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น